พระเจดีย์กาไหล่ทอง ฐานศิลาสลักเรื่องปฐมสมโพธิ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๓๘๖(จ.ศ.๑๒๐๖) ในรัชกาลที่๓ ประดิษฐานอยู่ภายในคูหาพระเจดีย์ใหญ่ วัดบวรนิเวศวิหาร ฐานพระเจดีย์กาไหล่ทอง เป็นแท่นสี่เหลี่ยมประกอบศิลาสลักภาพพุทธประวัติ ปางประสูติ ตรัสรู้ แสดงธรรมจักร และปรินิพพาน ด้านละปาง มีอักษรจารึก พระวาจา พระอุทาน และพระพุทธวจนะ พระไพรีพินาศเจดีย์ เป็นพระเจดีย์ศิลา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้น บรรจุพระพุทธวจนะ ประดิษฐานอยู่ในคูหาภายในพระเจดีย์ใหญ่วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๗ ระหว่างการซ่อมแซมพระเจดีย์ใหญ่ได้เปิดองค์พระไพรีพินาศเจดีย์ดู พบกระดาษสีขาว มีตราแดง ๒ ดวง มีอักษรเขียนไว้ว่า พระสถูปเจดียสิลาบัลลังองค์ จงมีนามว่าพระไพรีพินาศเจดียเทิญ อีกหน้าหนึ่งเขียนว่า เพราะตั้งแต่ทำแล้วมาคนไพรีก็วุ่นวายยับเยินไปโดยลำดับ พระเจดีย์กาไหล่ทอง ประดิษฐานอยู่ด้านทิศใต้ เป็นพระเจดีย์พระบรมราชานุสรณ์ พระชนมพรรษา ๕ รอบ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช บรรจุพระบรมสารีริกธาตุในวันปุริมพรรษา วันที่ ๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐
เจดีย์โลหะปิดทอง ที่อยู่ด้านเหนือและเจดีย์ไม้ปิดทอง ที่อยู่ด้านตะวันออก ไม่ปรากฏประวัติ
พระไพรีพินาศ เป็นพระพุทธรูปปางประทานพร สมัยศรีวิชัย ประดิษฐานอยู่ที่เก๋งบนทักษิณ ชั้นสองของพระเจดีย์ใหญ่ พระพุทธรูปองค์นี้ มีผู้นำมาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อยังทรงพระผนวชอยู่ประมาณปีพุทธศักราช ๒๓๙๑ พระองค์ได้ถวายพระนามว่า พระไพรีพินาศ
พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานอยู่ ณ ซุ้มปรางค์บนทักษิณชั้นบนของพระเจดีย์ ด้านทิศตะวันออก เป็นพระบรมรูปที่หล่อขึ้นใหม่ จำลองจากพระบรมรูปองค์เดิม ซึ่งปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่ตำหนักเพ็ชร พระบรมรูปจำลององค์นี้ หม่อมเจ้าหญิงจงจิตถนอม ดิศกุล ทรงให้กรมศิลปากรหล่อ และอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ ซุ้มปรางค์นี้ เมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๐๘
รูปสัตว์ เหนือซุ้มประจำทิศของพระเจดีย์ใหญ่ หมายถึง ดินแดนรอบราชอาณาจักรไทย คือ ม้า = พม่า, นก = โยนก, ช้าง = ล้านช้าง และสิงห์ = สิงคโปร์
เทวรูปประจำทิศ ๖ องค์ ที่ทักษิณชั้นล่างของพระเจดีย์ใหญ่ ทิศเหนือ พระพรหม พระวิสสุกรรม,ทิศใต้ พระนารายณ์ พระศิวะ และทิศตะวันตก พระปัญจสิกขะ พระประคนธรรพ |